วันจันทร์ที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2560

เสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน

เสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน      
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เสด็จโปรดสัตว์และแสดงพระธรรมเทศนา ตลอดระยะเวลา ๔๕ พรรษา ขณะนั้นพระองค์ได้ประทับจำพรรษา ณ เวฬุคาม ใกล้เมืองเวลาสี แคว้นวัชชี ทรงปลงอายุสังขารว่า อีก ๓ เดือนข้างหน้าจะปรินิพพาน โดยก่อนเสด็จดับขันธปรินิพพาน ๑ วัน พระองค์ได้เสวยสุกรมัททวะที่นายจุนทะทำถวาย เกิดอาพาธลงพระโลหิต พระพุทธองค์เกรงว่านายจุนทะถูกกล่าวโทษ จึงตรัสว่า "บิณฑบาตที่มีอนิสงส์ที่สุด มี ๒ อย่าง คือ เมื่อตถาคต(พุทธองค์) เสวยบิณฑบาตแล้วตรัสรู้ และเมื่อเสวยแล้วปรินิพพาน"
และ มีพระพุทธดำรัสว่า "ธรรมและวินัยอันที่เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่เธอทั้งหลาย ธรรมวินัยนั้น จักเป็นศาสดาของเธอทั้งหลาย เมื่อเราล่วงลับไปแล้ว"
พระพุทธเจ้าทรงประชวรหนัก แต่ทรงอดกลั้นมุ่งหน้าไปยังเมืองกุสินารา ประทับ ณ ป่าสาละ เพื่อปรินิพพาน โดยก่อนที่จะเสด็จดับขันธปรินิพพานนั้น พระองค์ได้อุปสมบทแก่ พระสุภัททะปริพาชก ซึ่งถือได้ว่า "พระสุภัททะ" คือ สาวกองค์สุดท้ายที่พระองค์ทรงบวชให้ ท่ามกลางคณะสงฆ์ทั้งที่เป็นพระอรหันต์ และปุถุชนจากแคว้นต่างๆ รวมทั้งเทวดา ที่มารวมตัวกันในวันนี้
ในคราวนั้น พระองค์ทรงมีปัจฉิมโอวาทว่า "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราขอบอกเธอทั้งหลาย ว่า สังขารทั้งปวงมี ความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา พวกเธอจึงทำประโยชน์ ให้สมบูรณ์ ด้วยความไม่ประมาทเถิด"
จากนั้น ได้เสด็จดับขันธปรินิพพาน ใต้ต้นสาละ ณ สาลวโนทยาน ของเหล่ามัลลกษัตริย์ เมืองกุสินารา แคว้นมัลละ ในวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ รวมพระชนม์ ๘๐ พรรษา
วันนี้ถือเป็นการเริ่มต้นของพุทธศักราช
ปัจจุบันเรียกว่า "วันวิสาขบูชา"
ที่มา :: http://www.buddhajayanti.net
Link ที่เกี่ยวข้อง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น